EXECUTIVE SUMMARY IN CENTRAL THAI

จุดพลิกผันนานาชาติ

การศึกษาผลกระทบ นวัตกรรม ภัยคุกคาม และความยั่งยืนของผู้ประกอบการสื่อดิจิทัลในลาตินอเมริกา
 

ABOUT US

This report was created by

thanks to support from 

with additional support from 

บทสรุปผู้บริหาร

ขณะที่การล็อกดาวน์เนื่องจากโรคระบาดได้กระจายไปทั่วโลกเมื่อต้นปี 2020 อัตราค่าโฆษณาตกต่ำ และนักวิเคราะห์ข่าว

ได้เตือนถึง “สถานการณ์ระดับสูญพันธ์” ขององค์กรข่าวต่าง ๆ

ความกังวลว่าวิกฤตครั้งนี้ได้ส่งผลกระทบอย่างไรต่อสื่อดิจิทัลอิสระพื้นเมืองที่เราทำงานด้วยที่ เซมบร้ามีเดีย(SembraMedia)

เราจึงเริ่มโครงการวิจัยขนาดใหญ่เมื่อต้นปี 2021 เพื่อดูว่าผู้เล่นสื่อมือค่อนข้างใหม่เหล่านี้ไปได้ไกลแค่ไหน และได้เปลี่ยน

แปลงไปอย่างไร ตั้งแต่การศึกษาจุดพลิกผันครั้งแรกของเราในปี 2016

เรารู้สึกผ่อนคลายเมื่อพบว่าสื่อดิจิทัลพื้นเมืองมากกว่า 200 รายส่วนใหญ่ที่รวมอยู่ในการศึกษาแบบขยายนี้ไม่ได้ประสบกับความสูญเสียทางการเงินจำนวนมหาศาลตามรายงานของสื่อแบบดั้งเดิม การวิเคราะห์ของเราให้ข้อคิดว่าสิ่งนี้เป็นเรื่องปกติเพราะพวกเขาไม่ได้อิงอาศัยการโฆษณามากเกินไป และเนื่องจากเงินทุนสนับสนุนสื่อได้เพิ่มขึ้นในปี 2020

ในการศึกษาจุดพลิกผันครั้งแรก เราได้สัมภาษณ์ผู้ประกอบการสื่อดิจิทัลพื้นเมือง 100 รายในอาร์เจนตินา บราซิล โคลอมเบีย และเม็กซิโก ในรายงานฉบับนี้ นอกจากได้ดำเนินการสัมภาษณ์ 100 รายในสี่ประเทศเดิมในลาตินอเมริกาแล้ว เรายังได้เพิ่ม

อีก 8 ประเทศ โดยสัมภาษณ์องค์กรผู้นำสื่อดิจิทัล 49 แห่งในแอฟริกา ได้แก่ กานา เคนยา ไนจีเรีย และแอฟริกาใต้ และ52 แห่ง 

ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คืออินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และไทย

ด้วยทีมงานนักวิจัยท้องถิ่น 23 คน นำโดยผู้จัดการระดับภูมิภาค เราได้สัมภาษณ์เป็นภาษาท้องถิ่นของแต่ละประเทศ ใช้เวลาสัมภาษณ์ 2 ถึง 3 ชั่วโมง ประกอบด้วยคำถาม 500 ข้อที่ครอบคลุมเนื้อหาและผลกระทบของนักข่าว เสรีภาพของสื่อ และ

ความปลอดภัยของนักข่าว แหล่งรายได้และค่าใช้จ่าย โครงสร้างทีมงาน และประสบการณ์ การใช้โซเชียลมีเดียและเทคโนโลยี

และนวัตกรรม

ตามที่คุณอาจจะคาดการณ์ไว้ มีความแตกต่างกันในระดับภูมิภาคระหว่างสื่อข่าวดิจิทัลในแอฟริกา เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และลาตินอเมริกา ที่เราได้รวมไว้ในรายงานนี้ แต่สิ่งที่ประทับใจเรามากที่สุด เมื่อเราตรวจทานข้อมูลพบความคล้ายคลึงกันที่ปรากฎเด่นขึ้นระหว่างองค์กรข่าวเหล่านี้ เมื่อพวกเขามุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือให้ชุมชนร่วมสร้างรูปแบบธุรกิจที่ยั่งยืนไปด้วยกัน

แม้ว่าส่วนใหญ่จะมีงบประมาณค่อนข้างน้อย แต่ส่งผลกระทบได้มากกว่า เมื่อเทียบกับขนาดของทีมและทรัพยากร 

ผู้เชี่ยวชาญหลายคนชำนาญทางด้านวารสารศาสตร์เชิงสืบสวนและเชิงข้อมูล และผลงานของพวกเขามากกว่า

ร้อยละ 50ได้รับรางวัลระดับประเทศหรือระดับนานาชาติ

จุดพลิกผันนานาชาติแสดงให้เห็นถึงงานวิจัยทั้งลึกและกว้างที่สุดเท่าที่เคยทำมาเกี่ยวกับสถานะของสื่อดิจิทัลพื้นเมืองใน

ทวีปลาตินอเมริกา เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และแอฟริกา เช่นเดียวกับหลายสิ่งในสถานการณ์ที่ยังมิใช่ภาวะหลังโรคระบาดของโลกเสียทีเดียว สิ่งที่เราพบคือการผสมผสานระหว่างภัยคุกคามระดับที่น่าตกใจ และแรงบันดาลใจที่ทำให้ผ่านพ้นวิกฤติไปได้

แหล่งข่าวดิจิทัลในการศึกษานี้ถูกสร้างขึ้นโดยผู้ก่อตั้งสื่อที่มุ่งมั่น เต็มใจที่จะจัดการกับรัฐบาลที่ทุจริตและกลุ่มค้าระหว่าง

ประเทศที่มีความรุนแรงถึง แม้ว่าจะมีทรัพยากรจำกัด พวกเขาสุ่มเสี่ยงชีวิตความเป็นอยู่เป็นอย่างมาก และในกรณีที่ร้ายแรง

ที่สุดคือเสี่ยงชีวิตของพวกเขา

แต่รายงานนี้ไม่ได้ร้องขอความช่วยเหลือหรือวิงวอนขอให้ช่วยประกันตัวกลุ่มสื่อที่มีปัญหาเพราะผู้ก่อตั้งสื่อหลายคนที่เราสัมภาษณ์ยังลังเลที่จะขอความช่วยเหลือ

เป้าหมายของเราในหน้าต่อไปคือสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของผู้เล่นสื่อที่เพิ่งเริ่มได้รับการยอมรับตามที่เขาควรได้รับ

ให้มีความสำคัญอย่างต่อเนื่อง ในการศึกษานี้สื่อดิจิทัลพื้นเมืองจำนวนมากได้สร้างเรื่องราวที่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ

ในโลกแห่งความเป็นจริง เริ่มจากการปกป้องสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ การสนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศ ตลอดจนถึงการบังคับข้าราชการที่ทุจริตให้ลาออกด้วยความอับอาย

เราส่งผ่านข้อค้นพบและข้อเสนอแนะของเรา เนื่องจากผู้นำสื่อเหล่านี้สมควรได้รับความช่วยเหลือจากเราเพื่อให้พวกเขาปลอดภัยในขณะที่พวกเขาต่อสู้อิทธิพลที่ทรงพลัง ตลอดจนการสนับสนุนทางการเงินและการฝึกอบรมเพื่อสร้างองค์กร

สื่ออิสระที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้นเพื่อให้บริการชุมชนของเขา และมีระบอบประชาธิปไตยในภายภาคหน้า

ทำงานภายใต้การคุกคามและการโจมตีอย่างรุนแรง

การลงทุนด้านสื่อใหม่เหล่านี้เผชิญกับความท้าทายหลายอย่างเช่นเดียวกับการเริ่มต้นธุรกิจปกติ แต่มักดำเนินการภายใต้

เงื่อนไขที่ผู้ก่อตั้งธุรกิจอื่นๆไม่ได้คาดคิดมาก่อน เริ่มจากการโจมตีทางออนไลน์ไปจนถึงการทำร้ายร่างกาย

ในทั้งสามภูมิภาคร้อยละ 51ขององค์กรสื่อในการศึกษานี้กล่าวว่าพวกเขาตกเป็นเหยื่อการโจมตีทางดิจิทัล และร้อยละ 40 

กล่าวว่าพวกเขาถูกคุกคามในงานเขียนของพวกเขา บ่อยครั้งจะเป็นรายสัปดาห์ถ้าหากไม่เป็นรายวัน

การล่วงละเมิดทางออนไลน์เป็นที่แพร่หลายมากจนหลายองค์กรที่เราสัมภาษณ์กล่าวว่าพวกเขาถูกหลอกหลอนเกือบ

ตลอดเวลาโดยการละเมิดและการล่วงละเมิดคุกคามทางออนไลน์ประเภทอื่นๆ ส่วนใหญ่ถูกกระทำผ่านทางโซเชียลมีเดีย

สื่อดิจิทัลพื้นเมืองสร้างรายได้ในปี 2019 และปี2020 ได้อย่างไร

เพื่อให้เข้าใจดีมากขึ้นว่าสื่อดิจิทัลพื้นเมืองเป็นอย่างไรมาก่อนและช่วงระหว่างการระบาดใหญ่ เราจึงถามคำถามอย่าง

ละเอียดเกี่ยวกับแหล่งรายได้และค่าใช้จ่ายของปี 2019 และปี 2020

ตลอดรายงานฉบับนี้ เราใช้ข้อมูลของปี 2019 เพื่อหลีกเลี่ยงความผิดปกติที่เกิดจากการระบาดใหญ่ของโควิด-19ที่เกิดขึ้น

เป็นการชั่วคราว เรารวมผลการวิจัยของปี 2020 เฉพาะที่มีความแตกต่างอย่างเด่นชัดเท่านั้น

เราควรต้องบันทึกไว้ว่าสื่อที่ร่วมการศึกษานี้ไม่สามารถตอบคำถามของเราเกี่ยวกับรายได้และการเงินได้ทั้งหมด และบางสื่อ

ก็ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม แม้ว่าเราจะรับรองเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวก็ตาม ด้วยเหตุนี้ ตัวเลขทางการเงินที่นำเสนอใน

รายงานนี้จึงอ้างอิงจากสิ่งที่เราเรียนรู้จากผู้นำสื่อ 141 คน จากผู้นำสื่อทั้งหมดที่สัมภาษณ์ 201 คน เพื่อเปรียบเทียบสิ่งที่

ค้นพบให้ดียิ่งขึ้น รายได้และค่าใช้จ่ายจะถูกแปลงเป็นดอลลาร์สหรัฐ โดยใช้อัตราการแปลงเฉลี่ยสำหรับปีที่รายงาน

ในบรรดาสื่อทั้งหมดของทั้งสามภูมิภาคในการศึกษานี้ หมวดหมู่รายได้สูงสุด ได้แก่ เงินช่วยเหลือ การโฆษณา การบริการ

ให้คำปรึกษา การบริการเนื้อหา และรายได้จากผู้อ่าน ตามลำดับ สำหรับทั้งสองปี

แหล่งรายได้สูงสุดรวมตลอด จากทุกสื่อทั้งสามภูมิภาค*

เปอร์เซ็นต์เฉลี่ย ของรายได้ต่อปี 

ในปี 2019

เปอร์เซ็นต์เฉลี่ย ของรายได้ต่อปี 

ในปี 2020

ค่าเฉลี่ยในหน่วย  ดอลลาร์สหรัฐฯ 

ในปี 2019

ค่าเฉลี่ยในหน่วย  ดอลลาร์สหรัฐฯ 

ในปี 2020 
รวมรายได้จากเงินช่วยเหลือ 28.08%30.75%$48,258$63,597
รวมรายได้จากโฆษณา23.32%20.81%$27,903$27,323
รวมรายได้จากบริการให้คำปรึกษา11.96%10.26%$17,664$27,770
รวมรายได้จากบริการเนื้อหา8.28%6.86%$10,492$14,066
รวมรายได้จากผู้อ่าน8.27%6.49%$23,180$21,834

* ตัวเลขเหล่านี้รวมแหล่งที่คล้ายคลึงกันเป็นหมวดหมู่สูงสุด

  • เงินช่วยเหลือ: รวมทุนสนับสนุนทั้งหมดจากมูลนิธิเอกชน นักลงทุนเพื่อการกุศล และองค์กรเอกชน รวมถึง กูเกิ้ล 
  • รายได้จากโฆษณา: รวมแหล่งที่มาของโฆษณาทั้งหมดที่แจ้ง รวมถึงโฆษณาของ Google AdSense, โฆษณาหน่วยงานในสังกัด, โฆษณาของเครือข่ายแบบเป็นโปรแกรม, เนื้อหาที่สนับสนุนและการโฆษณาของพื้นเมือง และการขายโฆษณาโดยเอเจ้นซี่และพนักงาน
  • รายได้จากบริการเนื้อหา: รวมรายได้ทั้งหมดจากการเผยแพร่เนื้อหา เนื้อหาเฉพาะที่สร้างขึ้นสำหรับสื่ออื่นๆ เนื้อหา

    ที่สร้างขึ้นสำหรับลูกค้าที่ไม่ใช่สื่อ และบริการด้านการออกแบบหรือเทคโนโลย

  • รายได้จากผู้อ่าน: รวมการสมัครสมาชิก ค่าธรรมเนียมสมาชิก การสมัครรับจดหมายข่าว การบริจาคจากบุคคล 

    การระดมทุนทางอินเตอร์เน็ต และการขายตั๋วงาน

เงินทุนสนับสนุนระดับสูงที่โดดเด่นเพราะไม่ใช่แหล่งรายได้ที่สำคัญของบรรดาสื่อที่เราศึกษาในลาตินอเมริกาในปี 2016

 เมื่อมีการรายงานเงินทุนสนับสนุนเพียงร้อยละ 16 ของสื่อที่รวมอยู่ในการศึกษาครั้งแรกของเรา

ในปี 2019 เงินทุนสนับสนุนสื่อทั้งหมดในทั้งสามภูมิภาคของการศึกษานี้ ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 28 ของรายได้ทั้งหมด เพิ่มขึ้น

ถึงร้อยละ 31ในปี 2020 ระดับการให้ทุนช่วยเหลือเฉลี่ยต่อสื่อเพิ่มขึ้นจากประมาณ $48,000ในปี 2019 เพิ่มเป็นมากกว่า

$ 63,000ในปี 2020 เงินทุนสนับสนุนในลาตินอเมริกาได้สูงมากกว่า

จากการสนทนาส่วนตัว เราได้ข่าวว่าผู้บริจาคและมูลนิธิต่างมีความกังวลเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ว่าสื่ออิสระจะพึ่งพาเงินทุนสนับสนุนมากเกินเหตุ และเราก็มีความกังวลเช่นนั้น อย่างไรก็ตาม มีเหตุผลที่เชื่อได้ว่าการสนับสนุนผู้บริจาคที่เพิ่มขึ้นและ

การลงทุนเพื่อการกุศลเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ผู้ประกอบการดิจิทัลเหล่านี้สามารถฟันฝ่าผ่านพายุสภาวะ “โรคระบาดร้ายแรง”ได้

เมื่อมองภาพรวมในการค้นพบนี้ มีสิ่งสำคัญที่จะต้องตระหนักว่าด้วยงบประมาณในการเริ่มต้นเพียงเล็กน้อย เงินทุนจำนวนนี้

ก็สามารถนำพาให้พวกเขาไปได้ไกลเหมือนกัน

มากกว่าร้อยละ 60 ขององค์กรสื่อดิจิทัลพื้นเมืองมีรายได้รวมน้อยกว่า $50,000ในปี 2019 และร้อยละ 8 ได้รายงานว่าไม่มีรายได้เลย ซึ่งหมายความว่าพวกเขาต้องพึ่งพาอาศัยพวกอาสาสมัครทั้งหมด

แต่พวกเขาทั้งหมดไม่ได้เล็กขนาดนั้น ในปี 2019 จากทั้งสามภูมิภาคมีมากกว่าร้อยละ 36 รายงานว่ามีรายได้ต่อปีสูงกว่า $100,000 และร้อยละ 15 รายงานว่ามีรายได้เฉลี่ยต่อปีสูงกว่าหนึ่งล้านดอลลาห์

เรายังพบอีกว่าเกือบร้อยละ 25 ในปลายปี 2019 พวกเขามีกำไรบ้างเล็กน้อยหลังจากหักค่าใช้จ่าย

รายได้จากการโฆษณาเป็นอันดับสองรองจากหมวดหมู่รายได้ที่สำคัญที่สุด และรายได้ค่าโฆษณาเฉลี่ยแต่ละองค์กรค่อนข้าง

คงที่ที่ $28,319ในปี 2019 และ$ 27,323ในปี 2020

เพื่อให้เข้าใจมากขึ้นว่า สื่อในระยะพัฒนาการที่แตกต่างกัน สร้างรูปแบบธุรกิจอย่างไร เราได้จัดทำบัญชีแหล่งรายได้ขึ้น 

30 ประเภท ซึ่งเราสำรวจในเชิงรายละเอียดในบทที่เกี่ยวกับการสร้างรูปแบบธุรกิจ

เราสนับสนุนแหล่งรายได้ที่หลากหลายมาอย่างยาวนานเพื่อความเป็นอิสระและความยั่งยืนที่มากขึ้น แต่เมื่อเราเปรียบเทียบว่า

แต่ละสื่อมีแหล่งที่มากี่แห่งและแหล่งที่มานั้นส่งผลต่อรายได้ประจำปีของพวกเขาอย่างไร เราพบว่าแหล่งที่มาของรายได้มากแหล่งนั้นไม่ได้ดีเสมอไป และมีสองถึงหกแหล่งรายได้นั้นเหมาะสมดีที่สุด

สื่อที่รายงานว่ามีแหล่งรายได้มากกว่า 6 แหล่งไม่จำเป็นที่ต้องมีรายได้เพิ่มขึ้น การค้นพบนี้เราถือเป็นความท้าทายร่วมกัน

ในหมู่ผู้ประกอบการหลายรายนั่นคือการมีโครงการมากเกินไปในคราวเดียวกันอาจเป็นอุปสรรคแก่ความสำเร็จได้

ทีมที่มีทักษะหลากหลายสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้น

หนึ่งในการค้นพบที่น่าทึ่งที่สุดจากการศึกษาครั้งแรกของเราเกี่ยวกับองค์กรสื่อที่มีผู้นำเป็นนักข่าวเหล่านี้คือผลกระทบจาก

การเพิ่มพนักงานขายหรือนักพัฒนาธุรกิจที่ทุ่มเทให้กับทีมอย่างน้อยหนึ่งคน

ในการศึกษาภาคขยายนี้ เราพบว่าสิ่งที่ค้นพบนี้ใช้ได้กับทั้งสามภูมิภาค มีรายงานว่าสื่อที่จ่ายเงินจ้างให้แก่พนักงานขายหนึ่งคนสามารถทำรายได้เพิ่มขึ้นหกถึงเก้าเท่าของผลประกอบการในปี 2019 ซึ่งมากกว่าสื่อที่ไม่ได้จ่าย

ครั้งนี้ เราถามด้วยว่าพวกเขาจ่ายไปเท่าไหร่ และเราพบว่าเงินเดือนสำหรับตำแหน่งการขายและการพัฒนาธุรกิจอยู่ระหว่าง 

$ 200 ถึง $ 2,000 ต่อเดือน โดยมีค่ามัธยฐานของโลกอยู่ที่ $ 733

เนื่องจากผลกระทบอย่างมากจากการมีพนักงานที่ได้รับค่าจ้างซึ่งทุ่มเทให้กับการขับเคลื่อนรายได้ และต้นทุนแรงงานที่ค่อน

ข้างต่ำในตลาดเหล่านี้ การลงทุนในการขายและพนักงานธุรกิจจึงยังคงเป็นหนึ่งในคำแนะนำที่ยอดนิยมของเรา

บรรดาการค้นพบใหม่ องค์กรสื่อที่มีผู้นำด้านเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมโดยเฉพาะรายงานว่ามีรายได้เพิ่มขึ้นสามเท่า 

แม้ว่าจะไม่มีพนักงานขายอยู่ในทีมก็ตาม

มีจำนวนมากที่เจ้าของเป็นผู้หญิงและเป็นชนกลุ่มน้อย

หนึ่งในการค้นพบที่น่าประทับใจที่สุดจากรายงาน จุดพลิกผันฉบับแรกของเราคือเป็น ผู้หญิงคิดเป็นร้อยละ 38 ของ

ผู้ก่อตั้งสื่อดิจิทัลพื้นเมือง 100 คนที่เราสัมภาษณ์ในอาร์เจนตินา บราซิล โคลอมเบีย และเม็กซิโก

การค้นพบนี้เป็นสิ่งที่แปลกใหม่เพราะแสดงให้เห็นว่าผู้หญิงจำนวนมากขึ้นเป็นเจ้าขององค์กรสื่อที่ค่อนข้างใหม่เหล่านี้

มากกว่าหนังสือพิมพ์และสถานีโทรทัศน์ในตลาดซึ่งมี ผู้หญิงเป็นเจ้าของเพียงแค่ร้อยละ1 เท่านั้น

ในการศึกษานี้ เราพบว่าร้อยละ 32 ของผู้ก่อตั้งทั้งหมด 201 บริษัทที่เราศึกษาเป็นผู้หญิง แม้ว่าตัวเลขจะแตกต่างกันไป

ตามภูมิภาคและผู้ก่อตั้งที่เป็นผู้หญิงมีจำนวนลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัดในทวีปแอฟริกา

เรายังพบอีกว่าร้อยละ 25 กล่าวว่าผู้ก่อตั้งอย่างน้อยหนึ่งคนที่เป็นตัวแทนของชุมชนชนกลุ่มน้อยในประเทศของตนคือ

เกือบร้อยละ 30 ในลาตินอเมริกา, ร้อยละ 25 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และร้อยละ 20 ในทวีปแอฟริกา

ใครควรจะอ่านรายงานนี้

เราแบ่งปันข้อค้นพบในรายงานนี้โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการสื่อดิจิทัล แต่ผู้นำสื่อแบบดั้งเดิมอาจได้รับประโยชน์จากข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้เช่นกัน เนื่องจากนวัตกรรมดิจิทัลกำลังทำลายรูปแบบธุรกิจสื่อแบบดั้งเดิม

เราทราบดีว่าเรากำลังเผยแพร่รายงานนี้ใน “จุดพลิกผัน” อื่นในประวัติศาสตร์ที่ค่อนข้างสั้นของสื่อดิจิทัลพื้นเมือง ขณะที่

พวกเขาต่อสู้กับข้อมูลที่ผิดและทำงานเพื่อบอกชุมชนของพวกเขาได้รับรู้ พวกเขายังต้องต่อสู้กับวิกฤตเศรษฐกิจภายหลัง

โรคระบาดในประเทศของพวกเขา ในขณะที่เผชิญกับภัยคุกคามและการโจมตีต่าง ๆอย่างรุนแรง

เราหวังว่าข้อมูลเชิงลึก คำแนะนำ และแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในรายงานฉบับนี้จะส่งเสริมผู้นำสื่อ ผู้ให้ทุน นักวิชาการ 

และคนอื่นๆ ที่ร่วมภารกิจช่วยให้พวกเขาเติบโต สร้างสรรค์ และให้ข้อมูลแก่ชุมชนของพวกเขาได้ดีขึ้นด้วยวิธีที่เสริมสร้างประชาธิปไตยของพวกเขาให้แข็งแกร่งขึ้น